ท้ายหาดแหลมแม่พิมพ์

          วันนี้จะพาไปในที่เงียบสงบอีกสักที ริมทะเลที่โปรดของเราเอง ขอให้เป็นทะเลแม้ไม่ได้ลงไปเล่นแต่ก็ สดชื่นเสมอเมื่อได้เอาเท้าจุ่มมมมมมมม ลงไปเหมือนให้น้ำทะเลดูดซับความเหนื่อยล้าในใจออกไปได้ เพ้อเจ้อตามสไตล์ละนะ ว่าแล้วไปดูกันดีกว่ามาถึงแดดก็กำลังดีเลยที่เดียวเชียวละ...


         ว่ากันเรื่องประวัติแหลมแม่พิมพ์กันสะหน่อย วันนี้มาแนวแบบ เสริมความรู้กันบ้างเนอะ เอาน่าอ่านกันไปเพลินๆดูรูปประกอบไปด้วย เพลินจะตายไป แต่เนื้อหานี่ ไปหาจากกูลเกิ้ลนะ แต่อ่านเหอะอยากให้อ่าน


              ดูรูปแล้วไปอ่านประวัติกันสะหน่อยละกันเนอะ ตามนี้เลยจ้าาาาาาา
ประวัติความเป็นมาของศาลแม่พิมพ์ เล่ากันว่า นางพิมพ์เป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าเมืองสุพรรณบุรี นามว่า พันธ์ นางพิมพ์อยู่กับบิดาแค่สองคน เพราะมารดาของนางพิมพ์ได้เสียไปตั้งแต่นางพิมพ์ยังเด็กๆ จนกระทั่งเข้าช่วงศึกสงครามกับพม่า พม่าได้ยกทัพมาตีไทย และเคลื่อนทัพมาจนถึงเมืองสุพรรณ และตั้งใจจะยึดเมืองสุพรรณเป็นศูนย์บัญชาการทัพในการเข้าตีเมืองหลวง เจ้าเมืองพันธุ์เห็นว่าตนคงไม่สามารถต้านรับกองทัพพม่าได้ และเกรงว่าเมื่อพม่ายึดเมืองแล้ว อาจจะเป็นอันตรายต่อตนและบุตรสาว เจ้าเมืองพันธุ์จึงปลอมตัวเป็นชาวบ้านธรรมดา โดยให้ทุกคนเรียกตนว่า ตาพัน และให้นางพิมพ์ปลอมตัวเป็นผู้ชาย พร้อมทั้งรวบรวมคนใกล้ชิด พากันลงเรือสำเภาหนีออกจากเมืองสุพรรณ เจ้าเมืองพันธ์ได้ให้โหรประจำเมืองดูว่าควรจะเดินทางไปยังทิศไหนดี โหรได้ทำนายว่าหากเดินทางไปทางทิศตะวันออกจะสมความปรารถนา แต่ก็ต้องพบกับอุปสรรคใหญ่เสียก่อน


    มาๆๆๆมีต่ออีกนิดนึงงงงงงงงง....
เจ้าเมืองพันธุ์และนางพิมพ์จึงเดินทางมุ่งไปยังตะวันออก ผ่านปากน้ำสมุทรปราการ ออกทะเล แล่นเรือผ่านทางเขาสามมุข เลียบเลาะชายฝั่งเพื่อหาทำเลที่เหมาะกับการตั้งหลักปักฐาน เมื่อเรือแล่นมาถึง "ช่องแสมสาร" ช่องทางเดินเรือเล็กๆ ระหว่างแหลมแสมสาร และหมู่เกาะ ที่อยู่ในอำเภอสัตหีบ ขณะนั้นเองได้เกิดพายุ คลื่นลมแรงและพัดเรือจนกระแทกหินโสโครกแตก ทำให้นางพิมพ์ถึงกับหมดสติไป หลังจากนั้นทั้งหมดได้หยุดพักฟื้นอยู่ที่อู่ตะเภาเพื่อซ่อมเรือ แล้วเดินทางต่อ จนกระทั่งมาเจอบริเวณแหลมแม่พิมพ์ ที่คิดว่าเป็นทำเลที่เหมาะที่จะตั้งรกราก นางจึงได้หยุดและอาศัยอยู่บริเวณนี้กับบิดา นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าต่อมาอีกว่า วันหนึ่งตาพัน บิดาของนางพิมพ์หายไป หาเท่าไหร่ก็ไม่พบ นางพิมพ์จึงเข้าไปนั่งทำสมาธิในถ้ำ จนกระทั่งได้เสียชีวิตลงในถ้ำนั้นเอง หลังจากนางได้เสียชีวิตลง ชาวบ้านได้ช่วยกันตั้งศาลเจ้าแม่พิมพ์ไว้บริเวณแหลมแม่พิมพ์ เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณความดีของนางพิมพ์ ซึ่งถือเป็นศาลศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่าหากใครต้องการมีลูก แล้วมาขอลูกที่ศาลแม่พิมพ์ ก็มักจะได้


พระอาทิตย์ยามเยน สวยสะกดสายตากันเลยทีเดียวเชียวใช่ไหมละ ทะเลเหมือนมีแรงดึงดูดทำให้ยืนมองพระอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้าได้เหมือนมีมนต์สะกด ไม่รู้คนอื่นจะเป็นเหมือนกันไหม แต่โดยส่วนตัว ยืนมองจนหายลับไปได้แม้จะใช้เวลาเป็นชั่วโมงก็ตาม


แถมให้อีกรูป มันคือความเรียบง่ายที่แสนธรรมดา แต่มองเมื่อไหร่ก็ยิ่งทำให้รู้สึกถึงการเสพธรรมชาติและหลงใหลในธรรมชาติทุกครั้งที่ได้ไปเจอสถานที่ๆมีแรงดึงดูดอย่างบอกไม่ถูก บางสถานที่อาจจะไม่ต้องแลกมาด้วยเงินหลายพันหรือหลายหมื่น อาจจะแลกไปด้วยแค่เงินหลักร้อยเท่านั้นในการพักผ่อนเพื่อเสริมเเรงให้กับใจและชีวิตเพื่อวันที่ต้องกลับมาทำงานกันใหม่ในวันใหม่


มืดแล้ว ชายหาดที่เงียบสงบ ทำอะไรกันดี หมุนไฟ ตั้งกล้องสิ มันเป็นสิ่งที่ตากล้องอยากลอง อยากทำ พอได้ลองแล้วบอกเลย สนุกทั้งคนเหวี่ยง เสียงดังทั้งคนกดชัตเตอร์ อุปกรณ์หลักสิบบาท แต่สามารถทำให้ภาพออกมาได้ประทับใจกันเลยทีเดียวเชียววววววววว ความสุขเล็กๆก็เป็นความสุขได้เพียงเเค่เรามองให้มันเป็นความสุขในทุกๆวันก็พอ


          ปิดท้ายทริปด้วยรูปหมุนไฟอีกสักรูปแล้วกันเนอะ ใครผ่านไปแล้วลองแวะไปกันได้นะ ท้ายหาดแหลมแม่พิมพ์เนอะ เงียบ สงบ ไปให้ธรรมชาติบำบัดกันเถอะเพื่อจะได้มีแรงมาทำงานต่อในวันต่อไปนะคะ มองเรืองเล็กให้เป็นความสุข มันก็สุขแล้ว ไม่เชื่อลองยิ้มตามภาพสิ แค่นั้นก็สุขแล้วเห็นป่ะละ วันนี้ผู้หญิงหน้าร้ายพาไปทะเลแล้วรอบหน้าไปที่ไหนอีกตามมาดูกันนะจ๊ะ  บัยยยยยยยยยยยย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ผู้หญิงหน้าร้ายกับตากล้องใจดี๊ดี ^^

ชุมชนจีนซากแง้ว

ร่องเขานครชุมวันที่โนอึลถล่มไทย