ล่องเรือไหว้พระ ณ เจ้าพระยา


มาจ้าาาาาาาาาาาา วันนี้หน้าร้ายจะมารีวิว การนั่งเรือไหว้พระแบบชิคกันสะหน่อย ว่าแล้วก็เริ่มต้นที่ขับรถจากบ้านไปจอดที่ไอคอนสยาม ตอนนี้ยังจอดฟรีอยุ่6 ชม.นะจ๊ะ เห็นว่าเดือนหน้า ก.ค. 62 จะเริ่มเก็บตังค์แล้วนะจ๊ะ จอดเสร็จแล้วเราก็เดินไปด้านริมแม่น้ำซื้อตั๋วกันจ้า ตั๋วจะแยกเป็น 3 อย่างตามความเข้าใจของหน้าร้ายนะจ๊ะ


แบบแรก คือ ตั๋วเปนเที่ยว คือ 60บาท ลงท่าไหนก็ได้แต่ถ้าจะขึ้นใหม่เสียอีก 60 บาทนะจ๊ะ

แบบที่สอง คือ ตั๋ว One-Day ตั๋วนี้จะขึ้นลงท่าไหนก็ตามสะดวกเลยจ้า ได้ทุกท่า ได้ทุกที่ เอ้ยไม่ใช่ ฮ่าๆๆๆ ได้ตลอดจะลงไปเที่ยวที่ไหน แล้วไปต่ออีกท่าไหนได้หมดเลย แต่ๆๆๆๆๆๆ ตั๋วนี่ใช้ได้เวลา 9.00-17.30 เท่านั้นนนนนนนนนนนนะจ๊ะ  ราคาอยู่ที่ 200บาทต่อ1ท่านจ๊ะ

แบบที่สาม คือ All Day All Night ตั๋วนี้จะเหมือนตั๋วด้านบนจ้า ขึ้นลงได้ทุกท่าทุกที่ตามสะดวกต่างตรง เวลาจ้า อันนี้จะนั่งได้จนถึงมืดดดดดดดดด คือตั้งแต่8.30  20.30 หมดเวลาเรือวิ่งนะจ๊ะ ราคาจะอยุ่ที่ 300 บาทต่อ1ท่านจ๊ะ


อันนี้เป็นป้ายแต่ละท่าน้ำที่ คนซื้อตั๋ววันสามารถ ขึ้นลงได้ภายใน 1 วันนะจ๊ะ เดี๋ยวขอไล่เรียงให้แบบอ่านชิวๆสบายๆเนอะ  เริ่มต้นเลย จะเป็น 1. เอชียทีค   2. BTS สาธร  3.ไอคอนสยาม  4. ล๊ง1919   5.ราชวงศ์ (เยาวราช)  6.ปากคลองตลาด  7.วัดอรุณ   8.ท่ามหาราช  9. ธนบุรี   10.ท่าพระอาทิตย์ จบบบบบบหมดท่าจ้าาาาาาาาาาาา ^^


ไปจ้าเราเริ่มจาก ไอคอนสยาม แล้วก็นั่งเรื่อยเปื่อยไปจนถึง วัดอรุณ ลงจ๊ะลง ไปค่ะ เข้าวัดกันเลย
ลุยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


มาจ้าแนะนำตัวหน่อย คนนี้ "ยายเหลียว" แม่หน้าร้ายเอง ร้อนแค่ไหนก็ยังยิ้มได้ ขอให้ได้เข้าวัด ได้เที่ยววันหยุด แม่ก็จะอารมดีเป็นพิเศษอ่ะจ้า


ไปกันต่อจ๊ะ คนนี้พี่สาวหน้าร้ายเอง "ส้มโอ" จ้า เป็นคนคิดและริเริ่มว่าเราไปล่องเรือพาแม่ไหว้พระกันเถอะ เอาไปก็ไปสิ ลุยยยยยยยยยยยยยยย ฮ่าๆๆๆๆ


คนนี้ใครทำไมสวยจัง ฮ๋าๆๆๆๆ หน้าร้ายเองจ๊ะ "เราชื่อส้มอี๊ด" ไงจ๊ะใครละ ฮ๋าๆๆๆ ไม่ต้องชมว่าเราสวย และห้ามว่าเราเรื่องรองเท้าด้วย ฮ๋าๆๆๆๆๆ เข้าใจคำว่ามันเป็นสไตล์ไหมมมมมม ฮ๋าๆๆๆๆ โฟกัสที่รูปสวยๆพอเนอะ ว่าแล้วไปกันต่อจ้า


นี่จ้า วิว พระปราค์ วัดอรุณ อย่าถามว่าร้อนไหม ตอบเลยว่า ไหม้ๆๆๆๆๆๆๆๆ ไหม้แล้วเมิงถ่ายเร็วๆได้ไหม ฮ๋าๆๆๆๆ การได้แกล้งพี่นั้นเป็นความสุขอย่างนึง ในชีวิตเลยจ๊ะ กร๊ากๆๆๆๆๆ


ไปจ้า เข้าโบสถ์ไปไหว้พระประทานในโบสถ์กันเนอะ ว่าแล้วก็ ยายเหลียวหันมา่ถ่ายรูปเป็นที่ระทึกหน่อย ไม่ต้องถามแล้วเนอะถ้าดูจากรูปว่าดึงหน้าเก่งเหมือนใคร ฮ่าๆๆๆ หยอกๆๆๆๆ



และ ก็มาถึง ไฮไลท์กัน ยักษ์วัดแจ้ง กันมีหรือจะพลาด ใครหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเมื่อก่อนวัดอรุณ เดิมนั้นคนสมัยเก่าก่อนเรียกว่า วัดแจ้ง ในสมัยรัชกาลที่ 2 พระองค์ทรงดำเนินการปฏิสังขรณ์ต่อจนเสร็จ ทั้งได้ทรงปั้นหุ่นพระพุทธรูปด้วยฝีพระหัตถ์ และโปรดให้หล่อขึ้นประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถ และโปรดให้มีมหรสพสมโภชฉลองวัดในปี พ.ศ. 2363 แล้วโปรดพระราชทานพระนามวัดว่า "วัดอรุณราชธาราม"




“ยักษ์วัดแจ้ง” มี ๒ ตนคือ ยักษ์ด้านเหนือกายสีขาว มีชื่อว่า “สหัสเดชะ” ส่วนยักษ์ด้านใต้กายสีเขียว มีชื่อว่า “ทศกัณฐ์” ยืนเฝ้าที่ประตูซุ้มยอดมงกุฎทางเข้าพระอุโบสถ วัดอรุณราชวราราม....ประวัติเอาไปย่อๆแค่นี้เนอะ ฮ่าๆๆๆ อยากรู้มากกว่านี้ถาม อากู๋แล้วกันนะจ๊ะ แฮร่ ^^


ไปจ๊ะ ข้ามเรือข้ามฟาก ไปอีกฝั่งเพื่อจะไปวัดโพธิ์ และ วัดพระแก้วกัน ตามที่ตั้งใจเนอะ ฮ่าๆๆๆๆๆ ว๊าปข้ามฝั่งแม่น้ำด้วยเรือข้ามฝาก เสียค่าบริการคนละ 4 บาทต่อท่านนะจ๊ะ ระหว่างนั้นก็ เซลฟี่กันสะหน่อย ^^


พระวิหารและพระนอนวัดโพธิ์ เป็นพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทอง ที่มีขนาดสูง 15 เมตร ยาว 46 เมตร ก่อสร้างในการบูรณปฏิสังขรณ์ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่แต่เดิมเป็นที่ประทับของพระเจ้าไปยิกาเธอ กรมหลวงนรินทรเทวี พระกนิษฐาต่างพระชนนีในพระบาทสมเด็จพระ พุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช 

ภายหลังไม่มีพระบรมวงศานุวงศ์ประทับแล้ว รัชกาลที่ จึงทรงให้รื้อวัง แล้วสร้างพระวิหาร และพระนอนวัดโพธิ์ขึ้น ซึ่งนับกันว่าเป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่สวยงามที่สุด ในสมัยกรุงรัตน โกสินทร์ เป็นสัญลักษณ์ของปางปราบอสุรินทราหู


ความสำคัญอีกส่วนหนึ่งของพระ พุทธรูปองค์นี้คือ ภาพฝังมุกประดับ ที่พระบาทของพระพุทธรูปที่เป็นสัญลักษณ์ของมหาบุรุษผู้ที่พ้นไปจากสังสารวัฏ หรือเหนือจักรวาลทัศน์ หรือความเป็นโลกไปแล้ว...ประวัติเอาไปพอสังเขตที่พอจะหามาได้นะจ๊ะ 



พระบาทของพระพุทธไสยาสน์แต่ละข้าง กว้าง 1.5 เมตร ยาว 5 เมตร มีภาพมงคล 108 ประการ เป็นลวดลายประดับมุก ภาพมงคลแต่ละอย่างจะอยู่ในช่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ล้อมรอบด้วยภาพกงจักร ซึ่งอยู่ตรงกลางพระบาท ทั้งสองข้างมีภาพเหมือนกัน


ถ้าจะให้แนะนำและใครๆก็บอกกล่าวกันก็คือเป็นพระของคนประจำวันอังคาร มากราบไหว้แล้วจะดีกับตัวเอง ใครที่อ่านแล้วเกิดวันอังคารเหมือนหน้าร้าย ก็แวะมาไหว้มาถ่ายรูปกันได้นะจ๊ะ



มาจ้า ว๊าปเก่งจากวัดโพธิ์ ก็ข้ามกลับไปฝั่งวัดอรุณแล้วนั่งเรือที่เราเหมาวันเดย์ไว้ มาอีกท่านึงซึ่งก็เกือบบ่ายแล้ว ก็เลยตัดสินใจที่จะลงท่านี้เพื่อหาอะไรกินกันเนอะ แต่อันนี้ขอไม่รีวิวว่ากินอะไรแล้วกันเนอะ ไปดูบรรยากาศโดยรอบๆ ท่ามหาราชกันเลย


มาจ้า จุดเช็คอิน ที่ใครๆมาก็ต้องมาถ่ายตรงนี้ แล้วเราจะพลาดได้อย่างไรกัน ลุยสิจ๊ะ....

ท่ามหาราช จุดนัดพบแห่งใหม่ของไลฟ์สไตล์บนถนนมหาราช ตั้งอยู่บนเกาะรัตนโกสินทร์ ริมแม่นํ้าเจ้าพระยา ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดของกรุงเทพมหานคร เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว อุดมไปด้วยศิลปะ และมรดกทางวัฒนธรรมของชุมชน แหล่งรวมวัตถุบูชาที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย รวมถึงร้านอาหารอร่อยที่มีประวัติอันยาวนานมากมาย



ร้านอาหารใน ท่ามหาราช ก็จะเป็นร้านอาหารที่มีอยุ่ในห้างทั่วไป S&P  ไก่บอนชอน สตาร์บัค อาฟเตอร์ยู  ซัพเวย์  ประมาณนี้นะจ๊ะ วันที่ไปต้องบอกว่าอากาศค่อยข้างร้อนพอสมควร แดดจัดมาก เลย กลัวยายเหลียวจะเป็นลมเอานะ 55555+


พออิ่มก็ตั้งใจว่าจะนั่งเรือชมวิว ไปแวะล๊ง1919 กันต่อ ทางลงท่าเรือจะมีมาสคอสน่ารักๆ ซึ่ง ส้มโอ ชอบมากกกกกกกกกกกกกตัวมาสคอสน่ารักๆ ถึงก่ะต้องร้องเรียกให้ถ่ายรูปกันสะหน่อย ฮ่าๆๆๆ


วิวฝั่งตรงข้ามและเราสามารถข้ามไปได้นั่นคือ วังหลัง ใช่แล้ว วังหลัง ศิริราชนั่งเอง ถ้าใครมีเวลาเดินชิวไปกินไปช๊อปกันฝั่งโน้นได้อีกนะจ๊ะ แต่วันนี้หน้าร้ายคงทำได้แค่มองแล้วก็มองจ๊ะ ฮ่าๆๆๆๆ เนื่องจากฟ้าครึ้มมาแล้ววววว


และแล้วก็ไม่รอด ที่หวังจะไปถ่ายรูปเล่นที่ล๊ง1919 และนั่งเรือวนไปถึงเอชียทีค ล่มสลายเพราะฝนตกหนัก คลื่นลมค่อยข้างแรงนิดนึง ก็เลยต้องนั่งเรือกลับไปที่ไอคอนสยามเพื่อที่จะต้องจบทริปแต่เพียงเท่านี้ แต่รอบหน้าอาจจะมาซ้ำใหม่นะจ๊ะ


ปิดท้ายด้วยรูปนี้ ครอบครัวสุขสันต์ สาว สาว สาว บ้านหน้าร้ายเอง ยังไงก็ขอบคุณสำหรับๆทุกๆการอ่านที่แวะเข้ามาอ่านนะจ๊ะ อาจจะรีวิวไม่ได้ละเอียดนัก ไม่ได้มีสาระเยอะเท่าไหร่ แต่ก็อยากให้ทุกคนอ่านและสนุกกับการอ่านบล็อคของหน้าร้ายนะจ๊ะ

แล้วไว้มาพบกันใหม่นะจ๊ะ แล้วหน้าร้ายจะพาไปเที่ยวกันอี๊กกกกกกกกกกกก บัยยยยยยยยยย ^^































ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Hello Tokyo (Ueno Park) Part 4

ผู้หญิงหน้าร้ายกับตากล้องใจดี๊ดี ^^

ร่องเขานครชุมวันที่โนอึลถล่มไทย