Hello Fuji (Kawaguchiko) Part 2


     
             มาจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา Part 2 มาแว้วววววววววว สวัสดีวันที่ 3 ในประเทศญี่ปุ่นก่อนจะกลับเข้าโตเกียวในบ่ายนี้ ตื่นเช้ามากับ 2 องศาเบาๆเนอะ ฮ่าๆๆๆ แต่ก็ได้เห็นฟูจิซังเต็มๆตา ความรู้สึกมันแบบ เออคนอื่นมาหลายรอบกว่าจะได้เห็น ส่วนตัวเราก็ลุ้นเพราะอยุ่มา2วันไม่ได้เจอเลย ดีที่เมื่อคืนฝนตกลมเเรง ได้เห็นกลางคืน แต่ก็ไม่รู้ว่าเช้ามาจะได้เห็นอีกไหม ขอบคุณ ฟูจิซังแสนขี้อายออกมาให้เห็นเต็มๆนะค๊าาาาา



                ออกมาให้เห็นแล้ว นับจากนี้ รูปคู่ก่ะ ฟูจิซังก็จะเยอะๆหน่อย เอ้าลุยยยยยสิ รออะไรละจ๊ะ จัดกันไปเลยทุกมุม  ปล.ที่ไม่เสื้อโค้ทนี่ไม่ใช่ไม่หนาวนะ แต่อยากให้ดูชิคๆเลยถอดเสื้อโค้ทแล้วถ่ายรูป รูปนี้ตากล้องส่วนตัวเป็นคนถ่าย ส่วนกล้องหรอ มือถือจ้าาาาา


   หน้าสถานนีจะเป็นลักษณะนี้นะจ๊ะ มี ฮีทเตอร์ ไว้ภายใน มีที่ซื้อตั๋วกับพนักงาน มีที่เติมเงินในบัตรเพื่อเดินทาง สถานีนี้จะเป็นสถานีหลักไม่ว่าจะมาจากโตเกียว หรือจะไปไหนใน คาวาฟูจิโกะ มาเริ่มต้นตรงนี้เนอะอาจจะไม่งง แต่ถ้าใครโปรแล้วก็ลุยได้เลยจ้า ส่วนใครที่มาเองก็ลองเผื่อเวลาด้วยนะจ๊ะ ^^ 
   ปล. รูปเจ้าของบล็อคอาจจะเยอะกว่ารูปวิวหน่อยเนอะ อดทนดูหน่อยแล้วกันนะจ๊ะ ฮ่าๆๆๆๆ



ตรงนี้เป็นสถานีต้นทางของสาย Fujikyu Railway นะคะ อยากได้ที่นั่งดีๆ ต้องรีบมาเข้าคิวรอขึ้นกันหน่อย แนะนำให้นั่งทางฝั่งซ้ายมือ จะเห็นภูเขาไฟฟูจิเยอะกว่า โดยรถจะออกตอน 8:17 น. และจะไปถึงสถานี Shimoyoshida ตอน 8:58 น. ไปจ้าเข้ามาในสถานีเพื่อขึ้นรถไฟฟ้า และรถไฟฟ้าจะออกเดินทางจากสถานที Kawaguchiko Station เพื่อไปไหน ไปไหนดี ยังไม่ได้กลับโตเกียวนะจ๊ะ ก่อนกลับเราก็เที่ยวก่อน เราฝากกระเป๋าไว้ที่สถานีนี้เพื่อที่จะได้ไปเที่ยวแบบคล่องตัวหน่อย มีทั้งตู้รับฝากและฝากที่สถานีได้เลยนะคะ ตู้สามารถฝากได้เลย แต่ถ้าฝากที่สถานีต้องรอเจ้าหน้าที่มาทำงานเปิด 9.00 นะจ๊ะ ต้องกรอกรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่และจ่ายตังค์ไว้ที่สถานีนะค่ะ


               ก่อนจะขึ้นรถไฟไปเที่ยวก็เนอะ ขอถ่ายหน่อยเห็นฟูจินี่หน่า อย่าหาว่าเจ้าของบล็อคบ้าบอเลยนะ ปีนี้เรามาที่นี่แล้วปีหน้าเราก้ไม่รู้จะไปที่ไหนอีก จะได้มาซ่อมอีกไหม ก็ขอเก็บภาพเท่าที่เก็บได้แล้วกันเนอะ ส่วนPart2 นี้รูปอาจจะเยอะนิดนึงเนอะ คำบรรยายอาจจะไม่มากเพราะ Part1 ได้คอมเม้นท์ส่วนตัวมาว่ารูปน้อยไปหน่อย ยังไงเดี๋ยวไปแก้ไขเติมรูปให้อีกนะคะ ^^




    ไปจ้าาาาาาาาาาาา ขึ้นรถไฟฟ้าแล้ว ก็เซลฟี่กันสะหน่อยคนละฝั่ง ขาดลุงกับป้าแล้วก็พี่น้ำนั่งอีกเบาะนึงเลยได้เก็บภาพได้เท่านี้ แหะๆๆๆๆ ไปจ้าการนั่งรถไฟฟ้าที่นี่ก็ได้ชมวิวระหว่างทางและเห็นฟูจิเป็นระยะๆซึ่งเป็นภาพที่แบบ สวยจัง เข้าใจแล้วทำไมญี่ปุ่นถึงเอารูปภูเขาไฟฟูจิเป็นรูปประจำหลายๆอย่าง เหมือนต้องมนต์เหมือนมีมนต์แบบบอกไม่ถูกใครมีโอกาศสักครั้งนะคะในชีวิตไปเนอะ ลองไปดู ^^

ปล. ให้ไปอีกกี่รอบก็ไม่เบื่อ บอกเลยยยยยยยยยยยยยยยยย ฮ่าๆๆๆๆ



    เอาๆๆๆๆๆ ถึงแล้ว ลงสถานี Shimoyoshida ระหว่างรอที่ใครอีกหลายๆคนเข้าห้องน้ำ พวกเราก็เซลลฟีกันสิจ๊ะเท่าที่มีอยุ่เรียกๆๆๆๆๆ มาๆๆๆๆๆๆๆๆ แน่นเฟรมทุกครั้งที่เรียกรวมพลว่าแต่ ที่ไหนกันละที่นี่ อิอิ ไปๆๆๆ อยากรู้อ่านต่อจะได้รู้ว่าไปที่ไหนกันเช้านี้ ^^


         ว๊าปเก่ง....ฮ่าๆ มาๆๆๆถึงแล้ว วิวเแรกที่จะเจอก็คือประตูเสาโทริอิสีแดงของศาลเจ้าอาราคุระยามะเซนเกน (Arakurayama Sengen Shrine) จากสถานีมาถึงตรงนี้ก็ใช้เวลาเดินประมาณ 5 นาทีค่ะ ที่นี่คนไทยเรียกว่าเจดีย์แดง เป็นสถานที่ปักหมุดอีกทีในประเทศญี่ปุ่นที่ใครมาแล้วต้องแวะ น่าเสียดายตรงที่ตอนไป ซากุระยังไม่บานต้นไม้ที่เห็นก็จะเป็นกิ่งๆไม่มีดอกไม้ไม่มีใบนั่นคือต้นซากุระนั่นเอง บันไดทั้งหมด 400 ขั้น เอาสู้ไม่สู้ มาถึงนี่แล้วมันถอยไมได้แล้วไปลุยยยยยยยยยยยยยยยยยกันเลย


      เราเดินไปเรื่อยๆ เราเหนื่อยเราก็พัก แม่เจ้าาาาาาาา เมื่อไหร่จะถึง ดีตรงทีอากาศไม่ร้อนถ้าร้อนบอกเลย เป็นลมตายตั้งแต่100ขั้นแรกแล้วเถอะ ฮ่าๆๆๆๆ แวะถ่ายไปเรื่อยๆ เน้นฟูจิข้างหลังนี่แหละ ถ้าไม่ได้อยากเห็นวิวข้างบนกับตา บอกเลย ไม่เดินนนนนนจ้า ไกลขนาดนี้แล้ว ฮ่าๆๆๆ ที่วิ่งทุกเย็นช่วยอะไรบ้างไหมบอกเลยว่าไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆ ไปๆๆๆ ไปกันต่อ ลุยๆๆๆๆๆๆ


เจดีย์ชูเรโต (Chureito Pagoda / 忠霊塔) เป็นเจดีย์สีแดงห้าชั้นซึ่งตั้งอยู่บนเขาในสวนอาราคุระยามะเซนเกน (Arakurayama Sengen Park) ณ เมืองฟูจิชิโยดะ (Fujishiyoda) ในจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi)
เจดีย์ชูเรโตแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1959 เพื่อรำลึกถึงผู้ที่เสียชีวิตในสงครามของเมืองฟูจิโยชิดะ รูปแบบของเจดีย์ชูเรโตนั้นมีที่มาจากวัดชิเทนโนจิ (Shitennoji Temple) ในจังหวัดโอซาก้า (Osaka) โดยมีความสูง 19.5 เมตร ภายในเป็นที่เก็บป้ายสุสานของทหารในสงคราม
สำหรับคนที่จะขึ้นมาชมความงามของเจดีย์ จะต้องเดินขึ้นบันไดเกือบ 400 ขั้นเลยทีเดียว จากด้านหลังเจดีย์ชูเรโตสามารถเก็บภาพทั้งเจดีย์สีแดงและภูเขาไฟฟูจิพร้อมวิวของเมืองฟูจิชิโยดะได้อย่างสวยงาม สถานที่แห่งนี้จึงได้กลายมาเป็นจุดถ่ายรูปที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างชาติ โดยจะมีผู้มาเยือนเป็นจำนวนมากในช่วงซากุระบานช่วงประมาณกลางเดือนเมษายน

     Happy Time จริงๆ มาแล้ววิวนี้เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องได้ถ่ายมุมนี้ เหมือนจะไม่มีคนนะ แต่อยากบอกว่า คนเยอะมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก ฮ่าๆๆๆๆ ก็เป็นจุดไฮไลท์ของที่นี่เนอะ วิวเด็ดของญี่ปุ่น มันสวยจริงๆ ถ้าสวยกว่านี้คือซากุระต้องบาน ซึ่งน่าจะอีกอาทิตหลังจากที่เจ้าของบล้อคมาเนอะ น่าจะต้นเมษาน่าจะบานเต็มสะพรั่งไปหมด คงจะสวยมากๆ นี่ขนาดยังไม่บานยังแบบบ ยอมแล้ว 400 ขั้นพอขึ้นมาถึงกับหายเหนื่อยกันเลยทีเดียวเชียว ^^



ไปจ๊ะเราก็ไปกันต่อ ยังจุดชมวิว ภูเขาไฟฟูจิ มุมนี้ถ้าถ่ายแบบนี้ก็จะไม่เห็นเจดีย์แดงแล้ว แต่จะเห็นวิวฟูจิชัดเจนเด่นชัดมาก จัดกันไปเรื่อยๆมาเรียงๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ สาวๆเกริลแก๊งค 1 รูป หนุ่มๆ บอยแบรด์ 1 รูปเนอะ สนุกสนานได้พักเหนื่อยและถ่ายรุปเล่นกันไปเรื่อยๆ รูปเดี่ยว รูปคู่ รูปกลุ่ม รูปหมุ่ จัดกันไปให้เต็มเนอะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ





















       จะพลาดได้ยังไง ถ่ายกับเค้าบ้างสิ เจ้าของบล็อคถ่ายวิวไม่สวย แต่ชอบถ่ายกับวิวมว๊ากมาก ฮ่าๆๆๆ กดชัตเตอร์กันรัวๆไป พยามเอามุมที่ผอมที่สุดมาลงแล้วละ แต่ได้เท่านี้เนอะ อย่าแซวเยอะเลย กินก็เก่ง เที่ยวก็เก่ง ^^


วิวนี้ สวยจับตาจับใจจริงๆ ถ้ามาหน้าร้อนกว่านี้ หิมะบนยอดเขาฟูจิละลายหมดแล้ว ภูเขาไฟฟูจิก็จะดำๆไม่มีสีขาวๆแบบนี้ แต่หน้าร้อนก็จะได้เห็นซากุระบานเต็มทั่วทั้งเมืองไปหมด ซึ่งมันคือดีมว๊ากกกกจริงๆ ย้ำอีกหลายๆรอบก็จะบอกว่า มีโอกาศก็ไปเถอะนะคะ ไปเถอะ มันมีมนต์เสน่ห์จริงๆ



















ทุกคนก็จะถ่ายเน้นวิว ให้เห็นภูเขาไฟฟูจิเนอะ คุ้มค่าถึงแม้จะเห็นวันที่จะกลับเข้าโตเกียวแล้ว ถ้าได้เห็นก่อนหน้านี้ที่มาถึง ทุกวิวที่เราไปกัน ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านน้ำใส วิวที่ขึ้นกระเช้า รอบทะเลสาบคาวาฟูจิโกะ จะเห็นฟูจิเต็มลูกซึ่งทุกสถานที่จะสวยและมี แบล็คกราวเป็นภูเขาไฟฟูจิทั้งหมด มันจะฟินขนาดไหนกันนะ แค่นี้ยังฟินจิกหมอนสุดๆเลย ^^















ใกล้เวลาจะต้องกลับกันแล้ว เราก็ว๊าปเดินลงมาด้านล่างซึ่งมีที่ให้ไหว้ ตรงนี้เค้าเรียกว่า ศาลเจ้าอาราคุระยามะเซนเกน (Arakurayama Sengen Shrine)


             ว่าแล้วก็แวะไหว้สะหน่อย ก็ดูตามแบบคนข้างหน้าเนอะว่าเค้าทำยังไง ประมาณว่า คำนับ เขย่ากระดิ่งด้วยเชือกอันใหญ่ๆ แล้วก็ปรบมือ2 ครั้ง แล้วก็ไหว้ ไม่รู้หรอกว่าทำถูกไหม แต่ก็ทำตามเค้าและพยามทำให้ถูกที่สุดแหละ ฮ่าๆๆๆๆ ขออะไรนะหรอ บอกเลยชีวิตนี้ถ้าขอ ขอเรื่องเงินอย่างเดียวจ้า ^^


พอไหว้ศาลเจ้าเสร็จก็เดินมาพักหน่อย เสียตังค์ไปกับ ไอศกรีม งี้ ทาโกะยากิงี้ ด้วยเมื่อเช้าไม่ได้กินไรรองท้องมาเลย ก็เลยหาไรรองท้องแต่ดูจากการที่กินกันแล้วเหมือนไม่ได้รองท้องนะ กินก่ะเอาอิ่มกันเลยทีเดียวเชียววววว ฮ่าๆๆๆๆ  ขอจบ Part 2 ว้แต่เพียงเท่านี้ก่อนแล้วกันเนอะ แล้วเดี๋ยวจะเร่ง Part 3 ออกมาให้ได้อ่านกันแบบไม่ขาดตอนนะจ๊ะ อย่าเพิ่งเบื่อกันน๊าจ้าาาา

ปอ ลิง  อ่านแล้วคอมเม้นท์กันหน่อยเนอะว่าอยากให้ปรับปรุงอะไร ขาดตกบกพร่องหรืออยากให้เพิ่มอะไรลดอะไร ลองบอกดูเนอะ เขียงเอง คิดเอง ทำเองอาจจะไม่ถูกใจไปทั้งหมดแต่เป็นสไตล์เจ้าของบล็อคเองนะจ๊ะ


สุดท้ายยยยยยยยย....อยากให้ตาม Part3  ซึ่งเป็นใน Tokyo ทั้งหมดเลยนะจ๊ะ จะพยามเขียนให้ละเอียดเท่าที่จำได้นะจ๊ะ ยังไงหน้าร้ายจะพาเที่ยวไปเรื่อยๆนะจ๊ะ ^^ ฝากรูปทิ้งท้ายไว้อย่าเพิ่งเบื่อเค้านะ



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ผู้หญิงหน้าร้ายกับตากล้องใจดี๊ดี ^^

ชุมชนจีนซากแง้ว

ร่องเขานครชุมวันที่โนอึลถล่มไทย