หน้าร้ายจะพาขึ้นภูตะลุยหมอก...ณ ภูสอยดาว
เฮโหล โยเย้ สวัสดีหน้าฝน สิ่งที่ต้องมากับฝนก็คือหมอกใช่ไหม เราจะไปหาเจอหมอกกันได้ที่ไหนน๊าาาาา อิตตาระดุส เห้ย อุตรดิตร ฮ่าๆๆๆๆ วันนี้หน้าร้าย จะพาเดินป่าแบบหน้าเหวี่ยงๆกันที่ "ภูสอยดาว" ที่จังหวัด อุตรดิตร นะแจ๊ะ วันนี้เราเดินทางเริ่มต้นจากพัทยา วิ่งกันยาวๆไปจนถึง อุตรดิตรเข้าไปถึง อุทยานแห่งชาติ (อช) ขนสเบียงกันไปเพียบๆสำหรับ 3วัน2คืนของเราทั้งหมดดังนี้ไม่มีตากล้องนะในรูป ฮ่าๆๆๆๆๆ
รวมทั้งหมด 8 คน ตากล้องสุดหล่อของหน้าร้ายด้วยเนอะ อิอิ ด้วยความห้าวเป้ง ซื้อเป้มาใหม่ แบกเองสิจ๊ะ 6 โล ชิวๆเดี๋ยวรู้เลย แค่ตรงทางขึ้นนี้ก็อากาศค่อนข้างเย็นพอสมควร เย็นแบบ ขนลุกเป็นระลอกเวลาลมพัด ไม่อยากจะคิดถึงข้างบนเลยว่าอากาศจะเป็นเยี่ยงไร ใครจะรู้ว่าหน้าร้ายอย่างเราขี้หนาวเหลือเกิ้น เดี๋ยวรู้จะได้อาบไหมน้ำเย็นนี้ ฮ่าๆๆๆ ว่าแล้วลุยกันเลย ไปๆๆๆๆ
ระหว่างทางขึ้นลง จะได้เจอกับน้ำตกไปเรื่อยๆจนเกือบครึ่งทาง ถึงจะไม่เห็นแต่ก็จะเห็นเป็นวิวยอดเขาที่จะเราต้องเดินไปถึง ตากล้องบอกให้รีวิวแล้วชวนคนมาเยอะๆเพราะสวย ถามว่าวิวระหว่างทางเดิน สวยไหม สวยนะ สวยมาก ทั้งวิว ทั้งหมอก หลายๆอย่าง มันสวยงามเป็นธรรมชาติมาก น้ำตกนี่น้ำเย็นเฉียบ ชื่นใจเวลาเอามือลงไปจุ่มน้ำกวักใส่หน้า ถึงกับหายเหนื่อยไปได้นิดนึง แต่ถ้าถามถึงทางเดินขึ้นเขาน่ะหรอ บอกแบบไม่โกหกเลยนะ แม่งโครตชัน แม่งโครตเหนื่อย ถ้าเทียบกับภูกระดึงที่ไปมา อันนี้เหนื่อยกว่าโคตรเยอะอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ถามว่าไปอีกไหม ถ้าปีละหนก็หยวนๆอ่ะ แต่ต้องฟิตร่างกายนะ ไปซ้อมวิ่งสักเดือนนึงวันละ 5โลนะ 2โลน้อยไปวิ่งทางเรียบ ไปเดินทางชัน โอ๊ยยยยยยยยยยตายๆๆๆๆ ขาพังมากบอกเลย ฮ่าๆๆๆๆ ว๊าปไปถึงยอดกันเถอะ....
ถึงแล้วลานสนภูสอยดาว แต่ๆๆๆๆ แต่เดี๋ยวก่อน ยังๆๆๆๆ ยังไม่ถึงลานกางเต้นท์ ต้องเดินกันต่ออีกประมาณ 500 เมตร แม่เจ้า ขาจะหลุดแล้ววววว คนพาไปได้แต่ขำ ไม่ต้องถามถึงกระเป๋า โยนให้ลูกหาบส่วนตัวไปตั้งแต่เนินแรกแล้ว และก็เลิกห้าวแล้วต่อไปไม่แบกไรแล้ว แค่เดินตัวเปล่าก็ลำบากแย่แล้วละฮะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
โหลๆๆๆ เช้าวันที่ 2 บนภูสอยดาว ตื่นเช้ามา 8โมงกว่า แม่เจ้ามองไปทางไหนก็หมอกทั้งนั้น วันนี้จะเจอแดดไหม หมอกเยอะขนาดนั้นทั้งวันทั้งคืน ปอดจะชื้นแน่ๆ แต่ว่า อยุ่เมืองกรุงคงไม่ได้สัมผัส คงได้สัมผัสเป็นไอฝุ่นแทน ฮ่าๆๆๆ แค่ 3 วันเอง มันไม่พอให้ปอดชื้นหรอก แต่มันพอให้ได้จดจำบรรยากาศที่เรียกว่า "ธรรมชาติบำบัด" ได้ดีทีเดียวเชียวละ สำหรับห้องน้ำ การอาบน้ำหรือเข้าห้องน้ำ ที่นี่มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ แต่ๆๆๆๆๆๆ แบกใส่กระป๋องแล้วเอาไปอาบนะจ๊ะ สารภาพตามตรงเลย ว่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา อาบน้ำวันแรกวันเดียว ฮ่าๆๆๆ หัวไม่ได้สระด้วย สารภาพอีกว่า สระไม่ไหวจริงๆ อภัยเหอะ คืออากาศแม่งเย็นมาก หมอกมากมาย แค่อาบน้ำได้ก็โคตรเก่งแล้ว ไม่มีใครชมหรอก ชมตัวเองนี่แหละ ปกติอยุ่บ้านหน้าร้อนยังอาบน้ำอุ่นเล้ยยยยยยยยยยยย ยอมไปอาบน้ำเย็นในอากาศเย็นขนาดนั้น เก่งสุดพลังแล้วบอกเลย ฮ่าๆๆๆ ป่ะๆล้างหน้าแปรงฟัน กินกาแฟ ไปเดินเล่นรอบๆบนภูสอยดาวกัน
เดินกันไป ถ่ายรูปเล่นกันไป สิ่งที่ได้คือ หมอก หมอก หมอก รอบตัวรอบกายไปหมด หมอกหนามากถึงมากที่สุดจริงๆมันฟินแบบบอกไม่ถูกจริงๆนะ มันคือสิ่งที่หาไม่ได้ จากหลายๆที่ หลายที่มีหมอกแต่ที่ไปมายังไม่เจอแบบแน่นรอบตัวจนหัวเปียกได้แบบนี้เลยอ่ะ ฮ่าๆๆๆ อากาศเย็นแต่ถ้าไม่มีลมพัดจะไม่หนาวนะ ถามโดยรวมรู้สึกสดชื่นเวลาสูดอากาศเข้าปอดไปนะ
เดินไปเรื่อยๆจะไปเจอกับ หมุดปักแบ่งเขต ระหว่างประเทศไทย กับ ประเทศลาว หมุดนี้จะมี2แห่ง อีกทีนึงจะอยู่บนยอด 2100 ซึ่งช่วงเวลานี้เค้ายังไม่เปิดให้ขึ้นไปเพราะยังอันตรายอยู่ จะไปเจอหมุดแบบนี้อีกอันที่ไว้แบ่งเขตนั่นแหละ อย่ารำคาญนางแบบเลยนะ หัวก็ไม่สระ หน้าก็จะกลมๆนิดนึงเหมือนๆตัวอ่ะ ฮ่าๆๆๆ ไปเดินกันต่อไป เรื่อยๆ เราจะเดินวนซ้ายไปเรื่อยๆ เดี๋ยวจะไปวนเจอตรงลานกางเต้นท์ที่เราเริ่มเดินออกมานั่นแหละค๊าท่านผู้ชมมมมม
เดินมาจนถึง จุดชมวิวพระอาทิตย์อัสดง พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก โธ๋ๆๆๆ แค่แสงแดดจากพระอาทิตย์ยังไม่เห็นเล้ยยยยยยยยยยยย โชคดีหรือไม่ดีกันเนี๊ยะหน้าร้ายเอ้ย มาถึง 3 วันฟ้าไม่เปิดเลยจ้า ได้แต่หมอกมากอดไว้ทั้งวันทั้งคืน คิดแง่ดี กรุงเทพไม่มีเว้ย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ แต่ตากล้องบ่นว่าไม่ได้ล่าช้างกันเลย (ล่าช้างคือไม่เห็นทางช้างเผือกถ้าขึ้นที่นี่จะขึ้นแต่หัวค่ำไม่เกินสองทุ่มจะเห็นชัดมาก) ไว้ปีหน้าค่อยมาใหม่ละกันเนอะ ฮ่าๆๆๆๆๆ ไปกันต่อป่ะๆๆๆ
เดินตามตากล้องไปหามุมถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เบื่อรูปกับหมอกกันหรือยังจ๊ะ ถ้าเบื่อแล้ว เราก็ควรไปอาบน้ำ เล่นน้ำกันที่น้ำตกดีกว่า จากลานที่เรากางเต้นท์ เราจะเดินไปที่น้ำตกได้ใช้เวลาไม่นาน แต่ทางเดิน โคตรลื่นนนนนนนนนน ต้องเดินแบบระมัดระวัง จับเชือก จับมือกันให้ดีระหว่างทางเดิน ว่าแล้วไปดูหนุ่มๆอาบน้ำกันเถอะ ส่วนเราวันนี้ขอไม่อาบนะ วันเดียวพรุ่งนี้ลงเดี๋ยวอาบให้นะ ฮ่าๆๆๆๆๆ หน้าร้ายจะหน้าเน่านะครัชวันนี้
เตรียมขาสั้นไปอย่างดี แต่พอเจอน้ำเข้าไป บ้าไปแล้ว แม่งจะเย็นไปไหนว่ะ เย็นเกิ้น เกิ้นใจจะรับไหวบอกตรง น้ำบนยอดคือออกมาจากตาน้ำต้นทางก่อนจะไหลลงไปข้างล่าง คือด้วยอากาศที่ไม่เจอแดด แล้วก็น้ำตกอ่ะ น้ำตกก็คือน้ำตกไง ที่ปกติน้ำตกแม่งก็เย็นอยุ่แล้ว แต่นี่คือน้ำตกบนยอดดอย โอ๊ยยยยยย ลองคิดว่าจะหนาวและเย็นเฉียบขนาดไหน ตายๆ ไม่เล่นเว้ย ไม่อาบเว้ย หนาวทนไม่ไหวจริงๆ ฮ่าๆๆๆยืนมองหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เล่นน้ำกันไปเพลินๆแล้วกันเนอะ อาบเสร็จก็คงไม่พ้นหาที่ถ่ายรูปกันอีกแน่นอน ว่าแล้วก็ป่ะ ถ่ายรูปกันอีกระรอกแล้วกัน...
อันนี้หน้าร้ายเองไง ... ดอกไม้เรียกว่า หงอนนาค...มีสีม่วงอ่อน ซึ่งจะเยอะมากกว่านี้ถ้าเจอแดด แต่ช่วงที่ไปไม่มีแดดเลยมีน้อยมาก
บางทีก็อยากถามว่าแดดไม่มีเลย ใส่แว่นเพื่ออะไรค่ะ อุตส่าพกเเว่นดำมาเป็นพร๊อบเดี๋ยวจะเสียเที่ยวว่างั้นเถอะ ฮ่าๆๆๆ ตากล้อง หัวเหว่ย นะคะคนนี้
น้องกล้วย กับ น้องมะนาว ... คู่ที่น่าจะมีรูปเยอะที่สุดในทริปนี้ถึงแม้จะมีแค่มือถือ เพราะถ่ายกันมาตลอดทางตั้งแต่เริ่มเดินทาง ทริปภูสอยดาวทริปแรกด้วยกันเนอะ
น้องมะนาวกับทุ่ง หงอนนาค ซึ่งยังไม่บานถ้าบานเยอะกว่านี้คงสวยกว่านี้แน่นนอนทั้งดอกไม้ทั้งคน...
ทริปนี้ขอบคุณตากล้องสุดหล่อทั้งคู่นะคะ มือโปรทั้งคู่ ขอบคุณรูปสวยๆที่เอามาไว้ในบล็อคทั้งหมดของหน้าร้าย ให้เครดิตตากล้องหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่ คู่นี้นะคะ ภาพสวยจะติจะชมจะด่าก็ สองคนนี้นะคะ แฮร่ๆๆๆ
ขอบคุณสำหรับทริปดีๆแล้วก็ ผู้ร่วมทริปดีๆทั้งหมดนะคะ ความสุขเล็กๆน้อยๆที่เราหาได้ มันไม่ได้จากใครเลย มันได้จากตัวเราที่กล้าเดินออกไปหา ออกไปเจอ ซึ่งมันอยู่ใกล้ตัวเรามากๆ ขอแค่เพียงเปิดใจไปลองสัมผัสดูสักครั้ง ไม่ต้องมาก แค่ปีละครั้งแค่ได้ลอง แล้วคุณจะรู้ว่า สถานที่ๆต้องใช้ความพยายามมากกว่าการขับรถไปถึง มันสวยงาม มันชื่นใจ มันบำบัดทั้งร่างกายจิตใจได้มากแค่ไหน ธรรมชาติสามารถให้อะไรกับเราได้หลายอย่าง ลองสิค่ะแล้วคุณจะหลงรักธรรมชาติในเมืองไทยไปอีกมากมายทีเดียว...ไว้เจอกันทริปหน้านะคะ หน้าหนาวไปเที่ยวกับหน้าร้ายกันอีกสักทริปเนอะ แล้วเจอกันนะคะ
ฝากไว้ให้ดูนะคะ ขอบคุณน้องกล้วยสำหรับการตัดต่อคลิป ขอให้มีความสุขกับการอ่านบล็อคของ "หน้าร้ายจะพาเที่ยว" นะคะ...บัยยยยยยยยย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น